ภาพ: "ซอนต็อก" มหาราชินีสามแผ่นดิน |
พระนางช็อนด็อกนามเดิมว่า "เจ้าหญิงท็อกมาน" (Princess Deokman: 덕만공주님) ไม่ทราบปีเกิดที่แน่ชัดได้ นางเป็นธิดาองค์โตหรือองค์รองของ "กษัตริย์จินพย็อง" (King Jinpyeong) กับ "พระนางมายาตระกูลคิม" (Queen Maya) มีพี่น้องร่วมมารดา 2 องค์ คือ "เจ้าหญิงช็อนมย็อง" (Princess Cheonmyeong) และ "เจ้าหญิงซอนฮวา" (Princess Seonhwa) โดยข้อมูลตามบันทึกที่ขัดแย้งกันจึงยังมีการยืนยันแน่ชัดว่าระหว่างเจ้าหญิงท็อกมานกับเจ้าหญิงช็อนมย็องใครเกิดก่อนกัน
เจ้าหญิงท็อกมานถูกกล่าวถึงในด้านของความปรีชาสามารถและการมีน้ำจิตน้ำใจ นางมีเชื้อสายราชวงศ์บริสุทธิ์ทั้งจากฝั่งบิดาและมารดา เรียกว่า "ซองโกล" (Seonggol) หรือ "กระดูกศักดิ์สิทธิ์" (Hallowed Bone) ซึ่งตามกฎมณเฑียรบาลของอาณาจักรชิลลาระบุเอาไว้ว่าผู้ที่จะสืบทอดบัลลังก์จะต้องมีเชื้อสายราชวงศ์บริสุทธิ์เท่านั้น
เนื่องจากในตอนนั้นอิทธิพลของลัทธิขงจื๊อยังไม่ถูกเผยแพร่เข้ามา ฐานะของบุรุษกับสตรีในสังคมจึงเท่าเทียมกัน กษัตริย์จินพย็องเลือกแต่งตั้งให้เจ้าหญิงท็อกมานซึ่งมีความสามารถโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์และมีเชื้อสายราชวงศ์บริสุทธิ์เป็นเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งชิลลา เมื่อกษัตริย์จินพย็องสวรรคตเจ้าหญิงท็อกมานจึงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถพระองค์แรกของอาณาจักรชิลลาในปี 632
ในรัชสมัยของพระนางช็อนด็อกได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากแก่อาณาจักรชิลลา เรียกว่าเป็นหนึ่งในยุคทองของอาณาจักรเลยก็ว่าได้ พระนางทำนุบำรุงพุทธศาสนานิกายมหายานโดยส่งภิกษุเดินทางไปนครฉางอานของจีน (ปัจจุบันคือ เมืองซีอาน) เพื่อศึกษาและนำพุทธศาสนากลับมาเผยแพร่ มีการผลักดันให้สร้างวัดขึ้นมากมายโดยสิ่งก่อสร้างที่ถือว่ายิ่งใหญ่และคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันคือ "หอดูดาวช็อมซ็องแด" ซึ่งเป็นหอดูดาวที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย
ช่วงปลายรัชสมัยของพระนางช็อนด็อกเกิดเหตุการณ์กบฏนำโดย "พีดัม" (Bidam) อัครมหาเสนาบดีผู้มีแนวคิดคัดค้านการให้สตรีมีบทบาททางการเมือง แม้ว่าราชสำนักจะสามารถปราบปรามกลุ่มกบฏได้สำเร็จแต่พระนางก็สิ้นพระชนม์ลงระหว่างนั้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 647 รวมเวลาครองราชย์ 15 ปี
ตามบันทึกมีการระบุว่าพระนางช็อนด็อกมีสามี 3 คน หนึ่งในนั้นคือโอรสของกษัตริย์จินจี (พระราชาองค์ที่ 25 แห่งอาณาจักรชิลลา) และยังมีข้อมูลเสริมอีกว่าพระนางอาจจะมีสามีอีกหนึ่งคนซึ่งเป็นลุงของพระนางเอง อย่างไรก็ตามมีความเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าพระนางช็อนด็อกไม่ปรารถนาแต่งงานเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง เช่นเดียวกับ "พระนางจินด็อกแห่งชิลลา" และ "พระนางจินซ็องแห่งชิลลา" ที่ขึ้นครองบัลลังก์ในลำดับที่ 28 และ 51 ก็ไม่มีประวัติว่าแต่งงาน