ภาพ: Lady of the Dynasty |
ตามประวัติบันทึกไว้ว่าหยางกุ้ยเฟยเกิดเมื่อ 26 มิถุนายน 719 ในมณฑลเสฉวน ชื่อเดิมว่า "หยางอี้หวน" (Yang Yuhuan: 楊玉環) ความงามของนางถูกเปรียบเปรยไว้ว่า "มวลผกาละอายนาง" (羞花) หมายถึง นางมีความงามขนาดที่ทำให้มวลหมู่ดอกไม้ต้องละอายเมื่อได้ยลโฉมนาง
เมื่อย่างเข้าสู่วัยสาวความงามของหยางอี้หวนยิ่งเด่นชัดจนเป็นที่ลือเลื่อง เมื่ออายุได้ 16 ปี นางถูกคัดเลือกเข้าไปในวังเพื่อเป็นชายาของ "หลี่เม่า" (โอรสจักรพรรดิถังเสวียนจง) ผู้มีศักดิ์ "โซ่วหวาง" ความรักของทั้งสองดูเหมือนจะราบรื่นไม่ต่างจากสามีภรรยาทั่วไป
เส้นทางแห่งตัณหาราคะของหยางอี้หวนเริ่มต้นขึ้นในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาจักรพรรดิถังเสวียนจง หลี่เม่าพาชายาสาวสวยเข้าถวายพระพรพระราชบิดา แต่ความงามของนางดันไปเข้าตาผู้เป็นพ่อวัย 55 เข้าอย่างจัง หลังพิธีเสร็จสิ้นหลี่เม่าจึงถูกสั่งให้กลับเมืองตามลำพังโดยทิ้งชายาคนงามไว้ในวัง
หยางอี้หวนพลิกบทบาทจากชายาผู้เป็นที่รักกลายเป็นแม่เลี้ยงไปเสียแล้ว หยางอี้หวนในวัย 21 ปี กลายเป็นคนโปรดของจักรพรรดิถังเสวียนจง นางใช้เสน่ห์ที่มีติดตัวปรนนิบัติพระสวามีให้ลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นและโปรดให้นางมีตำแหน่ง "กุ้ยเฟย" หรือสนมเอกที่ใหญ่ที่สุดเนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งฮองเฮา
ความงามล่มแผ่นดินทำให้จักรพรรดิที่เคยใส่ใจบริหารบ้านเมืองยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาร่วมรักกับนาง มีเรื่องเล่าที่ว่าจักรพรรดิถังเสวียนจงชอบมาแอบดูเวลานางว่ายน้ำที่สระในหัวชิงฉือและเมื่อจ้องมองจนเพียงพอแล้วก็จะกระโจนลงไปร่วมรักกันในสระ
ไม่เพียงควบคุมจักรพรรดิเอาไว้ได้ แต่หยางกุ้ยเฟยยังมีบุรุษอีกรายเข้ามาพัวพัน นามนั้น คือ "อันลู่ซาน" แม่ทัพผู้อาจหาญที่หยางกุ้ยเฟยรับมาเป็นบุตรบุญธรรม แม้ว่าอันลู่ซานจะมีอายุมากกว่านางหลายปี ความสัมพันธ์สวาทเกินกว่าแม่ลูกได้เริ่มขึ้นและเป็นอยู่นานจนกระทั่งจักรพรรดิถังเสวียนจงทราบเรื่องจึงตะเพิดอันลู่ซานไป
แม้จะโกรธนางที่แอบคบชู้ แต่ความหลงใหลที่มีมากมายมหาศาลทำให้จักรพรรดิถังเสวียนจงยังคงมัวเมาอยู่กับหยางกุ้ยเฟยจนบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะยากแค้น อันลู่ซานที่ยังคงติดใจในบทรักกับหยางกุ้ยเฟยได้ก่อกบฏนำทัพเข้าคุกคามราชสำนักจนจักรพรรดิถังเสวียนจงต้องหลบลี้หนีภัยออกจากวังไป
จุดจบของหยางกุ้ยเฟยมาเยือนเมื่อขบวนอพยพมาถึงจุดพักม้า เหล่าทหารที่ติดตามมาอารักขาตระหนักดีว่าสาเหตุแห่งปัญหาทั้งหมดทั้งมวลนั้นมาจากหยางกุ้ยเฟยเพียงคนเดียว จักรพรรดิถังเสวียนจงถูกบีบบังคับให้สำเร็จโทษนางผู้เป็นที่รักโดยพระราชทานผ้าแพรแดงให้นางจบชีวิตตัวเองในวัยเพียง 37 ปี
เรื่องราวเชิงแห่งราคะโลดโผนคร่าวๆของสนมเอกผู้เลอโฉมจบลงไปแล้ว แต่ประเด็นสำคัญที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากไม่แพ้ความงามของนางเป็นเรื่องที่ว่าหยางกุ้ยเฟยได้ตายไปจริงๆหรือไม่ แม้จะมีสุสานของนางตั้งอยู่ในเมืองซีอานแต่กลับไม่มีร่างของนางอยู่ภายใน
บ้างว่าขันทีกับทหารเกิดใจอ่อนและปล่อยให้หยางกุ้ยเฟยหนีรอดไปโดยสังหารหญิงอื่นที่มีรูปร่างคล้ายนางแทน ส่วนหยางกุ้ยเฟยได้ระเหเร่ร่อนไปไกลถึงญี่ปุ่นและใช้ชีวิตบั้นปลายเยี่ยงสามัญชนธรรมดาโดยมีการระบุว่าพบสุสานของนางอยู่ที่นั่นด้วย
บ้างว่านางได้ตายในคืนวันนั้นด้วยผ้าแพรที่จักรพรรดิถังเสวียนจงประทานให้ แต่สภาพที่เพิ่งตายได้ไม่นานบวกกับร่างกายที่ยังคงความงามเอาไว้ทำให้ทหารที่ทำหน้าที่เฝ้าศพเกิดสะกดอารมณ์ไว้ไม่ไหวและร่วมรักกับร่างไร้วิญญาณของนางจนเป็นเหตุให้ทหารลงมือฆ่าฟันกันเพื่อแย่งศพของนาง